




นายทรงชาติ พรหมสนิท ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรชาวสวนบ้านบางเดือน อ.พุนพืน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันในพื้นที่ตำบลบางเดือนได้รวมกลุ่มกนตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรชาวสวน เนื่องจากผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันราคาไม่ค่อยจะดี ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ โดยเฉพาะยางพาราเมื่อถึงช่วงที่ยางพลัดใบประมาร 3 เดือน ก็ไม่สามารถที่จะกรีดยางได้ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ ดังนั้นการรวมกลุ่มกันเลี้ยงไส้เดือดจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับสมาชิก โดยการนำมูลหรือขี้วัวนมมาเป็นอาหารให้กับไส้เดือนที่เลี้ยงไว้ เนื่องจากมีธาตุอาหารสูง ส่วนใหญ่ไส้เดือนที่เลี้ยงจะเป็นสายพันธุ์อเมริกันไทเลอร์ หรือ AF ระยะเวลาในการเลี้ยงก็เลี้ยงง่าย ประมาณ 15-20 วันก็สามารถที่จะนำมูลหรือขี้ไส้เดือนออกมาจำหน่ายให้กับลูกค้าได้ซึ่งต่างกับการทำปุ๋ยหมักชนิดอื่นๆที่จะต้องใช้เวลา 3-4 เดือนในการหมักจึงจะนำมาขายให้กับลูกค้าได้ มูลหรือขี้ไส้เดือนจะขายในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ส่วนตัวไส้เดือนก็จะขายให้กับลูกค้าที่สนใจในราคากิโลกรัมละ 400 บาท ในแต่ละรอบสามารถผลิตมูลหรือขี้ไส้เดือนได้รอบละประมาณ 600-800 กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรหรือสมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้นเดือนละประมาร 2000-3000 บาท สมาชิกบางรายก็นำมูลหรือขี้ไส้เดือนไปปลูกผักสวนครัวให้กับตนเองสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง หรือปลูกไว้เพื่อบริโภคเองก็ได้
สำหรับประโยชน์ของมูลไส้เดือน 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้ในการปรับปรุดิน เพาะต้นกล้า บำรุงหน้าดิน ปุ๋ยมูลไส้เดือนมีธาตุอาหารหลัก NPK และธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชอุดมไปด้วยจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ช่วยให้พืชเจริญเติบโตเร็ว ทนต่อโรคและแมลง มีฮิวมัส ช่วยกักเก็บธาตุอาหารและปรับโครงสร้างดิน ทำให้ดินรวนซุย เร่งราก เร่งดอก บำรุงต้น ผล และใบเหมาะสำหรับพืชทุกชนิด
ด้านนายภาณุวัตร์ เพชรที่วัง เกษตรอำเภอพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานเกษตรอำเภอพุนพิน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เกษตรประจำตำบลเข้ามาดูแลให้การแนะนำ และด้านการตลาดให้กับเกษตรกรกลุ่มวิสากิจชุมชนเกษตรกรชาวสวนบ้านบางเดือนในการทำปุ๋ยมูลไว้เดือน ซึ่งไม่ใช้แต่กลุ่มนี้กลุ่มเดียว ยังให้การแนะนำไปยังกลุ่มไม้ผล กลุ่มไม้ดอก ตลอดจนเรื่องของการปราบศัตรูพืชในในพืชผัก หรือต้นไม้ต่างๆที่เกิดในพื้นที่
Share this content: