ชาวนานครสวรรค์ ยื่นหนังสือเรียกร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาข้าวเปลือกที่ตกต่ำ










วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 9.00 น นายนพดล มั่นศักดิ์ แกนนำชาวนาในอำเภอ 15 ของจังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดใกล้เคียง กว่า 800 คน นัดรวมตัวกลุ่มชาวนาที่เดือดร้อนเรื่องราคาข้าวเปลือกตกต่ำ บริเวณหน้าวัดเขาจอมคีรีนาคพรต ริมถนนพหลโยธิน ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ ก่อนถึงสะพานเดชาติวงศ์ เพื่อเรียกร้องให้ สส.ในจังหวัดนครสวรรค์ มารับหนังสือข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ พร้อมทั้ง เปิดเวทีปราศรัยโจมตีการแก้ปัญหาราคาข้าวของรัฐบาลต่อเนื่อง พร้อมเพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยมีนายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์
พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ รวมอำนวยความสดวกให้กับชาวนา
โดยหนังสือข้อเรียกร้องที่ทางแกนนำได้ส่งเสนอข้อเรียกร้องผ่าน สส.ในจังหวัดนครสวรรค์ มีเนื้อหาใจความว่า “เนื่องด้วยชาวนาจังหวัดนครสวรรค์ในความดูแลของท่าน ซึ่งมีพื้นที่เพราะปลูกข้าวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมพื้นที่ทำนาข้าว กว่า 2,896,000 ไร่ ขณะนี้ชาวนากว่า 57,000 ครัวเรือนในจังหวัดนครสวรรค์ ประสบปัญหาราคาผลผลิตข้าวเปลือกตกต่ำต้นทุนการผลิตสูง เช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีเพื่อการเกษตรน้ำมันเพื่อการเกษตรปัญหาเมล็ดพันธุ์ปนเปื้อน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นสวนทางกับราคาขายทำชาวมาได้รับผลตอบแทนในการทำนาไม่เพียงพอเพื่อการใช้จ่ายและการชำระหนี้กับ ธกส. และเกิดผลผลกระทบในวงกว้างกับภาคเศษฐกิจ ปัจจุบันราคาดันทุนการผลิตข้าวต่อไร่ อยู่ที่ 6000 – 7000, บาท/ไร่ แต่ขณะนี้ ณ วันที่ 16 กุมกาพันธ์ 2568 ชาวนาขายข้าวเปลือกได้เพียงตันละ 5400- 6500 บาทเท่านั้น จึงขอเรียกร้องให้ส่งเรื่องร้องทุกข์นี้ไปยัง นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้ชาวนาอย่างเร่งด่วน
โดยกลุ่มตัวแทนชาวนาผู้ปลูกข้าวจังหวัดนครสวรรค์ได้เสนอข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ได้แก่ 1.จัดให้มีโครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกเข้า ตันละ 12000 บาท อย่างเป็นรูปธรรม 2.โครงการชดเชยเขียวยาเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกข้าว ไร่ละ 2000 บาทรายละไม่เกิน 25 ไร่ 3.มาตรการควบคุมราคาปัจจัยการผลิตด้านต่างๆ เช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีเพื่อการเกษตร น้ำมันเชื่อเพลิงเพื่อการเกษตร และ แก้ไขปัญหาพันธุ์ข้าวปนเปื้อน 4.โครงการพักชำระหนี้เกษตรกร 2 ปี 5.ขอเสนอทางเลือกให้ รัฐรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกจากชาวนา และให้ผู้ประกอบการค้าข้าวซื้อผลิตข้าวเปลือกจากรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อไม่ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนาในจังหวัดนครสวรรค์และพี่น้องชาวนาทั่วประเทศ ซึ่งอยากให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน”
ต่อมาเวลา 10.30 น. ตัวแทนชาวนาได้เข้าร่วมประชุมกับ นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย ส.ส.เขต 2 นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.เขต 3 นายมานพ ศรีผึ้ง ส.ส.เขต 4 ส่ง(ตัวแทน)นายพีระเดช ศิริวันสาณฑ์ ส.ส.เขต 5 .(ติดเรียนส่งตัวแทน)
นายประสาท ตันประเสริฐ ส.ส.เขต 6 และบัญชา เดชเจริญศิริกุล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนายชุมพิชญ์ เดชะรัฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ส.ส.ทั้งหมดรับเรื่องร้องเรียนทั้งหมดและจะนำเข้าประชุมในสภาวันที่ 20 ก.พ.68 เพื่อให้สภาช่วยสรุปและหาทางช่วยเหลือพี่น้องชาวนาอย่างเร่งด่วนทั้งประเทศโดยเร็ว
ทางด้านตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องกว่า 100 นาย เข้ามาช่วยดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งก็เป็นไปด้วยดี ไม่ให้สร้างความเดือดร้อนประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน พร้อมทั้งสั่งการให้ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางผ่านจุดดังกล่าว
ซึ่งแกนนำชาวนาได้ยื่นหนังสือต่อตัวแทน สส.ในจังหวัดนครสวรรค์ จนได้ผลสรุปข้อเจรจรา โดยทางกลุ่ม สส.นครสวรรค์ รับปากว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี โดยจะมีการเสนอขอให้ช่วยเหลือชาวนาในเรื่องการชดเชยราคาข้าวให้มีราคาอยู่ที่ตันละ 9,000 บาท พร้อมกับจะออกมาตรการควบคุมราคาปุ๋ย ค่ายากำจัดศัตรูพืช ส่วนข้อเรื่องร้องอื่นๆ ของชาวนา จะมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อหารือในการช่วยเหลือบรรเทาให้กับพี่น้องชาวนาต่อไป ซึ่งชาวนาต่างก็พอใจ จึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ
Share this content: