สสจ.กาญจน์ รณรงค์สร้างความรอบรู้เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคฝีดาษวานร เนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2568
“รัก” เลือกได้ : Youth Choices for SAFE SEX
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ณ.โรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี รองผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ คณะครูและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ร่วมกับ องค์กรคณะทำงานเพื่อสุขภาพชุมชน (Community Health Committee : CHC) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมรณรงค์สร้างความรอบรู้เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคฝีดาษวานร เนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2568 “รัก” เลือกได้ : Youth Choices for SAFE SEX โดยนายแพทย์ธีรพจน์ ฟักน้อย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เนื่องในเทศกาลแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมให้วัยรุ่นและเยาวชนตระหนักถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม รวมทั้งรณรงค์สร้างความรอบรู้เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ เอชไอวี ซิฟิลิส หนองใน เป็นต้น โรคติดต่ออุบัติใหม่ (ฝีดาษวานร) ภายใต้แนวคิด “รัก” เลือกได้ : Youth Choices for SAFE SEX
สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ปัจจุบันยังคงเป็นปัญหาทางสาธารณสุขของประเทศไทย โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-24 ปี ที่มีแนวโน้มการเกิดโรคสูงขึ้น ข้อมูลปี 2566 พบอัตราป่วยโรคซิฟิลิสสูงขึ้นประมาณ 3 เท่า จาก ปี 2561 และพบยังพบอัตราป่วยโรคหนองใน ในปี 2566 มีอัตราป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย และมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี 5-9 เท่า สำหรับสถานการณ์จังหวัดกาญจนบุรี พบว่ากลุ่มเยาวชนที่มีอายุ 15-24 ปี มีแนวโน้มอัตราป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคหนองใน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้นกว่าคนปกติ 3-9 เท่า รองลงมาคือโรคซิฟิลิส ซึ่งเป็นผลมาจากการมีพฤติกรรมทางเพศที่ไม่ปลอดภัย โดยพบว่าอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในรอบปีที่ผ่านมายังต่ำอยู่ เพียงร้อยละ 46.9 เท่านั้น ผลกระทบสำคัญที่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศของวัยรุ่น นอกจากติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์แล้ว ยังมีการตั้งครรภ์ไม่พร้อมอีกด้วย
เนื่องในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย ขอให้วัยรุ่นและเยาวชนรักอย่างปลอดภัย มีทางเลือกที่ออกแบบได้ ด้วยบริการที่เป็นมิตร ภายใต้แนวคิด “รัก” เลือกได้ : Youth Choices for SAFE SEX” มีประเด็นการสื่อสารที่สำคัญ ดังนี้
• ถุงยางอนามัย ซึ่งทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยสามารถขอรับถุงยางอนามัย ฟรี ที่หน่วยบริการสุขภาพของรัฐและภาคประชาสังคมทั่วประเทศ นอกจากนี้ สามารถขอรับถุงยางอนามัย ฟรี ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เลือกหน่วยบริการใกล้บ้าน ซึ่งมีให้เลือกทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จากนั้นกดจองสิทธิ และไปรับถุงยางอนามัยตามวันและเวลาที่จองสิทธิได้เลย
• PrEP/PEP ยาป้องกันก่อน-หลังการสัมผัสเชื้อเอชไอวี ฟรีทุกสิทธิ ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง และหน่วยบริการสุขภาพที่ร่วมจัดบริการ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมจัดรณรงค์สร้างความรอบรู้เรื่องโรคฝีดาษวานร หรือ Mpox ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนและติดจากคนสู่คนได้ เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxviridae พบได้ในสัตว์หลายชนิดไม่ใช่แค่ลิง ยังพบได้ในสัตว์ตระกูลฟันแทะ เช่น กระต่าย กระรอก หนู และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เป็นต้น ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคนี้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดแถบแอฟริกา ส่วนใหญ่เชื้อจะอยู่ที่ตุ่มหนองที่ผิวหนัง ขอให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีตุ่มฝีตุ่มหนอง เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 3/14 วัน หรืออาจนานถึง 21 วัน โดยอาการและอาการแสดง ผู้ป่วยมักเริ่มด้วยอาการไข้ และผื่น จะเริ่มจากตุ่มแดง ประมาณ 5-7 วันหลังรับเชื้อ และตุ่มจะเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และแห้งเป็นสะเก็ดจำนวนมากน้อยตามความรุนแรงของโรค และการตอบสนองของผู้ป่วย ขณะนี้ยังไม่มียารักษาเฉพาะ ใช้การรักษาตามอาการ กลุ่มเสี่ยงสูง ได้แก่ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) โดยส่วนใหญ่เป็นในกลุ่มชายรักชาย (MSM) ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่างๆ ผู้ปลูกถ่ายอวัยวะ/ไขกระดูก และเด็กอายุน้อยกว่า 8 ปี การมีเพศสัมพันธ์ถือเป็นการสัมผัสใกล้ชิดรูปแบบหนึ่ง หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่รู้จักเพราะมีความเสี่ยงที่ไม่รู้ประวัติพฤติกรรมและการป่วยของคนนั้น คำแนะนำป้องกันโรค ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้มีผื่นสงสัยโรคฝีดาษวานร ไม่สัมผัส ตุ่ม หนอง สารคัดหลั่งร่างกาย หรือบาดแผลของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือซากสัตว์ป่า และบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ไม่นำสัตว์ป่ามาเลี้ยงหรือนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศโดยไม่มีการคัดกรองโรค และกรณีมีการเดินทางกลับจากประเทศที่เป็นเขตติดโรค ต้องทำการคัดกรองและเฝ้าระวังอาการจนครบ 21 วัน หากมีอาการสงสัยว่าตนเองมีอาการป่วยเข้าข่ายโรคฝีดาษวานร สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้ทันที หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
รักษพล พุ่มพฤกษ์
ภาพ/ข่าว
Share this content:
