พ่อใจสลายลูกชายวัย13เสียบปลั๊กไฟให้บ่อปลาที่เลี้ยงไว้โดนช็อตดับ










เมื่อเวลา 08.40 น.วันที่ 30 สิงหาคม พ.ต.ต.กิตติกวินท์ อุมาฐิติพงศ์ สว.(สอบสวน) สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ ไฟช็อตเด็กเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 1 บ้านหนองแวง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยส่งเสริมธรรม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบร่างของ ด.ช.ขวัญอนันต์ ประทุมวัน หรือการ์ตูน อายุ 13 ปี สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีม่วง นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างบ้าน สภาพศพที่นิ้วโป้งและนิ้วชี้มือข้างขวามีแผลไหม้ และสายปลั๊กไฟตกอยู่ที่พื้นใกล้ศพ ส่วนปลายสายไฟแช่อยู่ในอ่างเลี้ยงปลา ต่อมามีนายบพิธ ประทุมวัน อายุ 44 ปี พ่อน้องการ์ตูนรีบกลับมาบ้าน เมื่อเห็นศพลูกถึงกับร่ำไห้เขย่าตัวลูกชายพร้อมกับพูดว่า “ทำไมหนีพ่อไป” เป็นที่น่าเวทนากับผู้ที่พบเห็น และร่ำไห้ไปกอดพ่อตาและญาติ แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ระบุว่าเสียชีวิตเนื่องจากไฟฟ้าช็อต มาประมาณ 1-2 ชม. ส่วนที่หน้าบ้านญาติจะพบจักรยานผู้ตาย ด้านหลังจะมีผูกไม้ไผ่ ปลายไม้จะมีทีจับโทรศัพท์ เมื่อจะไปถ่ายรูป และเซลฟี่กับขบวนรถไฟที่ผ่านหมู่บ้าน
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายบพิธ ให้การว่า ตนทำงานที่ฟาร์มโคนม บ้านโนนสูง ตื่นเช้ามาวันนี้ ตนเห็นลูกออกบ้านไปตั้งแต่เช้า ไม่รู้ว่าไปไหน กลับมาตนได้ชวนลูกไปทำงานด้วย ซึ่งตนจะชวนลูกไปทำงานด้วยทุกวันเสาร์ ซึ่งลูกก็จะไปด้วย แต่ 2-3 สัปดาห์ ให้หลังลูกไม่ไปด้วย พอออกไปทำงานก็ไม่เห็นลูกแล้ว ส่วนสายไฟที่ลูกมาเสียบปลั๊กก็เป็นสายไฟกล้อง ตนก็เคยเตือนลูกตลอด ลูกชอบไปถ่ายคลิปรถไฟแล้วนำไปลงในช่อง Tik Tok ของตัวเอง “อยากบอกลูกว่าอโหสิกรรมให้พ่อ ที่พ่อดูแลไม่ดี พ่อห้ามแล้วเรื่องไฟ”
นายจรรยา เวชภัณฑ์ อายุ 67 ปี คุณตาน้องการ์ตูน ผู้มาพบศพหลานชาย กล่าวว่า ปกติหลานชายจะอยู่บ้านกับพ่อ 2 คน เพราะพ่อแม่แยกทางกัน พ่อมีภรรยาใหม่ แต่ภรรยาไปทำงานที่โคราช น้องการ์ตูนจะเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ส่วนพ่อน้องการ์ตูนจะไปทำงานที่ฟาร์มโคนมบ้านโนนสูง คาดว่าพ่อน้องการ์ตูนจะไปทำงานตั้งแต่เช้า ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันนี้ฝนตก ตนกับภรรยาไปสับหน่อไม้ที่นา แล้วจะไปตัดหัวปลีในสวนซึ่งอยู่หลังบ้านน้องการ์ตูน เมื่อมาถึงบ้านตนก็ได้เรียกหาน้องการ์ตูน เพราะเห็นประตูบ้านเปิดเอาไว้ แต่พอมองไปข้างบ้านก็เห็นน้องการ์ตูนนอนหงายอยู่ข้างบ้าน ในมือขวาถือสายไฟสีดำ ซึ่งคาดหลานจะต่อสายไฟไปที่บ่อปลาหางนกยูง และหลานชอบลุยไม่ค่อยจะสวมรองเท้า จึงรีบโทรแจ้งพ่อน้องการ์ตูนและเจ้าหน้าที่
“มาพบหลานนอนหงายไม่มีชีพจรแล้ว ก็พยายามปั๊มหัวใจช่วยหลาน แต่ก็มีช่วยไม่ทัน ซึ่งไม่มีลางสังหรณ์บอกเหตุล่วงหน้าอะไรเลย เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุทาหรณ์อยากฝากเตือนลูกหลานว่า เวลาฝนตกก็อย่าไปเล่นกับไฟ ให้สวมรองเท้า ให้ป้องกันตัวเองให้ดี ซึ่งได้คุยกับหลานครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 วันก่อน เรื่องช่วยตัดหญ้า”
นางบุญเลี้ยง ศรีนาเมือง อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่าเมื่อ 2 วันก่อน ตนทำกับข้าวเช้าในครัว อีกาบินผ่านบ้าน และส่งเสียงร้อง “กา กา” ได้ยินชัดเจนมาก ตนจึงบ่นว่ามาร้องทำไมแถวนี้ นึกใจว่าจะมีอะไรเพราะมีอีกามาร้องบินผ่านบ้านแต่เช้าแบบนี้ แต่ก็ไม่ระบุว่าใครจะเป็นอะไร ซึ่งคนโบราณคิดว่าถ้าอีกาผ่านบ้าน ก็จะพูดว่าจะเป็นใครอีกหนอ เพราะเชื่อว่าจะมีคนเสียชีวิต ส่วนตนก็แค่คิดเฉยๆ ไม่กล้าพูดว่าใครจะเป็นอะไร
นางนงลักษณ์ ทองภักดี อายุ 60 ปี เพื่อนบ้าน ก็พูดเช่นเดียวกันว่า เมื่อ 2 วันก่อน มีอีการ้องผ่านบ้านไปมา แต่วันนี้ไม่เห็น ตามคำโบราณเชื่อว่า อีการ้องบินผ่านบ้าน ก็จะมีคนเจ็บ คนป่วย คนเสียชีวิต ที่ผ่านมาก็ตรงตามความเชื่อ เพราะคนที่เจ็บป่วยอยู่แล้วก็จะเสียชีวิต ซึ่งอีกาก็บินผ่านบ้านหลังนี้และอ้อมหมู่บ้านไป
ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายจะเสียบปลั๊กให้ออกซิเจนปลาหางนกยูงที่เลี้ยงไว้ในบ่อปลา แต่ปลั๊กไฟอาจจะโดนน้ำฝน และผู้ตายก็เปียกฝน แถมไม่ได้สวมรองเท้า ทำให้ไฟฟ้าช็อต ประกอบกับพ่อไปทำงาน ผู้ตายอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีคนพบเห็นและช่วยได้ทันทำให้เสียชีวิต ก็จะให้ทางมูลนิธิฯ นำศพพบแพทย์ที่ รพ.ศูนย์ฯอีกครั้งก่อนมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
///////////////
Share this content:
