แม่ทัพภาค4 สั่งหน่วยทหารชายแดนใต้ ตบเท้าเยี่ยมให้กำลังใจแนะนำกลยุทธหวั่นโจรใต้วางแผนปล้นปืน ชรบ.ซ้ำ
สำหรับความเคลื่อนไหวหลังจากกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้อำพรางตัวแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหารพราน พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกปล้นอาวุธปืนของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. จำนวน 4 จุด ในพื้นที่ จ.ยะลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงได้อาวุธปืนไป 7 กระบอกนั้น
ล่าสุด พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา จัดชุดปฏิบัติการณ์เปิดแผนเฝ้าระวังและสกัดกั้นกำจัดเสรีภาพการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้าย โดยเฉพาะในช่วงยามวิกาล และควบคู่กับการเยี่ยมให้กำลังใจกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชุด ชรบ.ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามสถานที่ราชการ และจุดตรวจ ชรบ.ในแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งใช้ประสบการณ์ในการปฏิบัติภาคสนามแนะนำกลยุทธต่างๆ
ในการป้องกันตนเองและรักษาทรัพย์สินของทางราชการ หลังจากที่กลุ่มคนร้ายมีแผนและเป้าหมายที่จะบุกปล้นอาวุธปืนของ ชรบ. เพื่อเก็บรวบรวมสะสมใช้เป็นอาวุธปืนในการเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากการตระเวนตรวจสอบของปฏิบัติหน้าที่ของหมวดป้องกันชายแดนที่ 3 ร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 บก.ควบคุมสุริโยทัย ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการณ์อยู่บ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงค่ำของทุกคืนที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้วางแผนบุกปล้นปืนจาก ชรบ. 4 จุด ในพื้นที่ จ.ยะลานั้น จ.ส.อ.วีระชาติ หนดกระโทก ทำการแทน ผบ.มว.ปชด.ที่ 3 ร้อย.ปชด.ที่ 3 บก.ควบคุมสุริโยทัย ได้มอบหมายให้ ส.อ.วสินธ์ ทิพย์สมบัติ นำกำลังพลจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการณ์ ออกลาดตระเวนพื้นที่รับผิดชอบตลอดแนวพรมแดนเขตรอยต่อระหว่าง อ.ตากใบ กับ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งมีแม่น้ำโก-ลก เป็นเขตเส้นแบ่งพรมแดนไทยกับรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย พร้อมทั้งได้นำกำลังพลในการเยี่ยมให้กำลังใจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุด ชรบ.บ้านน้ำตก และกำชับให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเพื่อป้องกันกลุ่มคนร้าย จะวางแผนในการบุกปล้นอาวุธปืน เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ยะลา ที่กลุ่มคนร้ายพยายามฉวยโอกาสหาช่องโหว่ในการก่อเหตุ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่และชุด ชรบ.ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในหมู่บ้าน เพื่อตรวจสอบยานพาหนะและบุคคลที่ผ่านเข้าออกในหมู่บ้านยามวิกาล พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์หากไม่มีความจำเป็น ให้ทำกิจธุระในช่วงกลางวัน ในการป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายแฝงตัวเป็นชาวบ้าน ในการอำพรางตัวเพื่อก่อเหตุร้ายรูปแบบต่างๆ ที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อาจจะพบความสูญเสียที่คาดไม่ถึง
13 กรกฎาคม 2567/
ข่าว/ซาการียา/จ.นราธิวาส