วันที่ 7 เม.ย. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ
กรณีที่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์ถึงประเด็นเรื่องธ.ออมสินเปิดให้ลงทะเบียนกู้ยืมรายละ 50,000 บาท ผ่อนเดือนละ 834 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีข้อความชวนเชื่อในเฟซบุ๊กโดยระบุว่าออมสินเปิดให้ลงทะเบียนให้ยืมรายละ 50,000 บาท ผ่อนเดือนละ 834 บาท ทางธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ ซึ่งได้อ้างอิงข้อมูลสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน เพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบของธนาคารออมสิน อีกทั้งยังใช้ชื่อและทั้งตราสัญลักษณ์ธนาคารออมสินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ชักชวนให้ใช้บริการเงินกู้ ที่สำคัญคือ ได้แนบลิงก์เพื่อให้กดเข้าไป ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง แต่ที่ถูกต้องคือสินเชื่อประเภทนี้เปิดบริการยื่นกู้เฉพาะที่สาขาธนาคารออมสินเท่านั้น โดยจะไม่ส่งข้อความแนบลิงก์แชร์ไปบนสื่อโซเชียลต่าง ๆ
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th เฟซบุ๊ก GSB society หรือโทร 1115
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นการอ้างอิงข้อมูลสินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน เพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบของธนาคารออมสิน อีกทั้งยังใช้ชื่อและทั้งตราสัญลักษณ์ธนาคารออมสินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ชักชวนให้ใช้บริการเงินกู้
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”